เด็กมีปัญหาขากรรไกรยื่น เข้ารับการจัดฟันเด็กได้หรือไม่ได้แน่นอนครับ! เด็กที่มีปัญหาขากรรไกรยื่น เป็นกลุ่มที่เหมาะสมและควรเข้ารับการจัดฟันเด็ก (Early Orthodontic Treatment หรือ Phase I Orthodontics) อย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาขากรรไกรยื่นในวัยเด็กเป็นสิ่งสำคัญและมีประสิทธิภาพสูงกว่าการรอให้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วค่อยรักษา
ทำไมการจัดฟันเด็กจึงเหมาะสมกับปัญหาขากรรไกรยื่น?
ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่กระดูกขากรรไกรกำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Growth Spurt) ทันตแพทย์จัดฟันสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ในการ:
นำทางการเจริญเติบโต (Growth Modification/Guidance): นี่คือหัวใจสำคัญของการจัดฟันในเด็กที่มีปัญหาขากรรไกร การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมสามารถช่วยกระตุ้นหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรบนหรือล่าง เพื่อให้ขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรกลับมาสมดุลกันมากขึ้น
แก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ: ปัญหาขากรรไกรยื่นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม หรือพฤติกรรมบางอย่าง (เช่น ลิ้นดุนฟัน, การหายใจทางปาก) การจัดฟันในเด็กสามารถช่วยแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เป็นปัจจัยที่ทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น
ลดความซับซ้อนของการรักษาในอนาคต: การแก้ไขปัญหาขากรรไกรตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยลดความจำเป็นในการรักษาที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อเด็กโตขึ้น เช่น อาจลดโอกาสในการต้องผ่าตัดขากรรไกร (Orthognathic Surgery) ในอนาคต
ปรับปรุงรูปหน้าและบุคลิกภาพ: การแก้ไขความผิดปกติของขากรรไกรยื่น ส่งผลให้รูปหน้าของเด็กพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีความสมดุล และช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ
ปรับปรุงการทำงานของระบบบดเคี้ยวและการออกเสียง: เมื่อขากรรไกรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม การสบฟันก็จะดีขึ้น ทำให้เด็กเคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพ และอาจช่วยแก้ไขปัญหาการออกเสียงบางคำได้
ขากรรไกรยื่นในเด็กแบ่งเป็นหลักๆ ได้ 2 แบบ และการรักษาจะแตกต่างกัน:
ขากรรไกรบนยื่นมากเกินไป (Maxillary Protrusion / Class II Malocclusion):
ลักษณะ: ฟันบนยื่นออกมามากเมื่อเทียบกับฟันล่าง ทำให้คางดูถอย หรือคางสั้น
การรักษา: มักใช้เครื่องมือที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน หรือกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง
เครื่องมือ: เช่น Headgear (แบบที่ดึงจากด้านหลังศีรษะมาด้านหน้าปาก), Functional Appliances (เช่น Twin Block, Bionator) ซึ่งเป็นเครื่องมือแบบถอดได้ที่ช่วยปรับความสัมพันธ์ของขากรรไกร, หรือในบางกรณีอาจใช้เครื่องมือแบบ EF Line เพื่อช่วยปรับพฤติกรรมการดุนลิ้น
ช่วงอายุที่เหมาะสม: ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี โดยทั่วไปมักเริ่มประมาณ 7-10 ปี หรือเมื่อทันตแพทย์เห็นว่ามีการเจริญเติบโตของฟันและขากรรไกรที่เหมาะสม
ขากรรไกรล่างยื่นมากเกินไป (Mandibular Prognathism / Class III Malocclusion):
ลักษณะ: ฟันล่างยื่นคร่อมฟันบน ทำให้คางดูยื่นยาว
การรักษา: มักใช้เครื่องมือที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง และ/หรือกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรบนให้ยื่นมาด้านหน้า
เครื่องมือ: เช่น Facemask (เครื่องมือภายนอกปากที่ดึงหน้า), Chin Cup (ครอบคางเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง), หรือเครื่องมือ Functional Appliances บางชนิด
ช่วงอายุที่เหมาะสม: การรักษาขากรรไกรล่างยื่นควรเริ่ม เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มักจะอยู่ในช่วง 6-10 ปี เพราะหากปล่อยไว้นาน ขากรรไกรล่างจะเจริญเติบโตไปมาก และอาจต้องผ่าตัดเมื่อโตขึ้น
สิ่งที่ควรทำเมื่อสงสัยว่าเด็กมีปัญหาขากรรไกรยื่น:
ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ทันตแพทย์จะทำการตรวจประเมินอย่างละเอียด ถ่ายภาพรังสี และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาและช่วงอายุของเด็กแต่ละคน
เริ่มการรักษาในช่วงเวลาที่เหมาะสม: ทันตแพทย์จะเป็นผู้กำหนดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มการรักษา เนื่องจากเป็นช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโตของกระดูก ทำให้การแก้ไขมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความร่วมมือของผู้ปกครองและเด็ก: การจัดฟันในเด็ก โดยเฉพาะเครื่องมือบางชนิดที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการสวมใส่เครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การรักษาประสบความสำเร็จ
ดังนั้น หากคุณแม่สังเกตเห็นว่าบุตรหลานมีปัญหาขากรรไกรยื่น ควรพาไปพบทันตแพทย์จัดฟันโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ