จัดเลี้ยงนอกสถานที่: ธีมสีงานแต่งงาน รวมทุกสีทุกสไตล์ที่มาแรงหลายๆ คู่ก็คงเตรียมจับมือเข้าพิธีลั่นระฆังวิวาห์กันอยู่แน่ๆ และสำหรับว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่ยังทางตัน ไม่รู้ว่าจะจัดธีมงานให้ออกมาเป็นแนวไหนดีนั้น มาสูบไอเดียกันไปเลยกับธีมงานแต่งงานหลากหลายสไตล์ถึง 9 ไอเดีย เพราะธีมงานแต่งถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยกำหนดรูปแบบของงานแต่งให้ออกมาในทิศทางเดียวกันและช่วยให้งานไหลลื่นไปได้ด้วยดีอีกเช่นกัน
อีกทั้ง เวลาที่ถ่ายรูปออกมา ภาพก็จะดูโดดเด่นและมีสไตล์เป็นพิเศษ นำภาพมาเปิดดูเมื่อไหร่ ก็ต้องยิ้มจนแก้มปริ จนกลายเป็นวันที่น่าจดจำไปจนรุ่นลูกเลยล่ะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว เราไปดู 8 ธีมสีงานแต่งกันเลยดีกว่า รับรองได้เลยว่าต้องได้สักเฉดสีไปเป็น reference ในการจัดงานแต่งของตัวเองกันอย่างแน่นอน
1. ธีมสีงานแต่งสีเขียวขาวสไตล์คลาสสิค (Classic Green & White)
นับว่าเป็นธีมสีงานแต่งที่ดูคลาสสิคมองไปทางไหนก็ดูสดชื่นไปหมดเลยล่ะกับ Greenery Theme หรือธีมงานแต่งสีเขียวขาว โดยหลักๆ จะเน้นไปที่สีเขียวของใบไม้และต้นหญ้ามาเป็นพร็อบในการจัดงานเป็นหลัก ยิ่งถ้าโลเคชั่นเป็นการแต่งงานในสวนสีเขียวชอุ่มชุ่มตาด้วยนั้น ยิ่งดูเพอร์เฟ็คจนหาที่ติไม่ได้เข้าไปใหญ่สำหรับธีมงานแต่งสีเขียวขาวแบบนี้
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
แน่นอนว่าสีเขียวขาวขนาดนี้จะเหมาะที่สุดกับธีมงานแต่งงานแบบคลาสสิค เหมาะกับบ่าวสาวที่ชอบความเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาด สีนี้เหมาะที่สุดกับการจัดนอกสถานที่อย่างในสวนสวย
2. ธีมสีงานแต่งสีน้ำตาลโทนอบอุ่น (Warm Tones of Brown)
อีกหนึ่งธีมสีงานแต่งเน้นการใช้สีสันของธรรมชาติมาเป็นโครงหลักในการจัดงาน แต่จะเน้นไปทางสีโทนอุ่นอย่างสีน้ำตาล ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องจำกัดอยู่แค่ที่สีน้ำตาลเปลือกไม้เท่านั้นนะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีน้ำตาลม็อคค่า สีทราย หรือสีกากี ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสีเอิร์ธโทนใกล้เคียงสีโทนน้ำตาลที่สร้างความละมุนตาและความโรแมนติกให้กับบรรยากาศงานแต่งงานได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าใช้หญ้าแปมปัสหรือโคนต้นสนเป็นวัสดุหลักในการตกแต่งงานด้วยแล้วนั้น ก็มีความเหมาะเจาะและลงตัวกับสีโทนน้ำตาล ยิ่งเสริมส่งให้ดูเป็นธีมงานแต่งที่ดูอบอุ่นไปโดยถนัดตา นอกจากนี้โทนสีนี้ยังเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป สามารถนำไปประยุกต์ในการจัดงานหลากหลายรูปแบบ
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
สีน้ำตาลไม่ว่าเฉดไหนเข้มหรืออ่อนก็แน่นอนว่าเป็นสีที่เหมาะกับธีมงานแต่งงานที่ต้องการเน้นความอบอุ่นใกล้ชิดสนิทสนม ด้วยความที่สีน้ำตาลเป็นสีของธรรมชาติ จึงเหมาะมากที่จะจัดนอกสถานที่ เช่น งานแต่งในสวนสวย หรือจะจัดแบบธีมงานแต่งในฟาร์ม จัดงานในกระโจมสีขาวก็ตัดกับสีน้ำตาลได้ดีที่เดียว
3. ธีมสีงานแต่งสีส้มปะการัง (Playful Living Coral)
สีแพนโทน ก็ต้องยกให้สีนี้เลยกับโทนสีส้มปะการังหรือ Living Coral อินเทรนด์กันไปเลยแบบสุดๆ หากบ่าวสาวคู่ไหนเลือกใช้โทนสีนี้มาเป็นธีมสีหลักในการจัดงานแต่งงานก็เพอร์เฟ็คมาก เพราะเป็นสีที่ช่วยสร้างความสดใสและโรแมนติกได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งไม่เพียงแต่ตกแต่งเฉดสีในงานด้วยสีส้มปะการังได้เท่านั้นนะ เรายังสามารถเนรมิตทีมเพื่อนเจ้าสาวด้วยชุดโทนสีนี้ได้ด้วย รับรองถ่ายรูปออกมา บรรเจิดอย่าบอกใครเลย
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่าสีส้มปะการังเป็นสีที่เน้นความสดใส นอกจากนี้ยังสื่อถึงความมีพลังล้นเหลือ มีชีวิตชีวาและมีความนัยสื่อถึงการหวนคืนสู่ธรรมชาติ เหมาะกับธีมงานอินเทรนด์ทันสมัยแต่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนะ เห็นสีสดๆ แบบนี้อย่าคิดว่าไม่เหมาะจะจัดนอกสถานที่ แค่ชื่อสีก็บอกอยู่แล้วว่า Living Coralไม่ต้องพูดอะไรกันมากให้เจ็บคอ รับรองได้ว่าสีนี้จะเข้ากันได้ดีมากกับการจัดงานแต่งงานริมทะเล หรือจะจัดในสวน ริมสระว่ายน้ำ ในห้องบอลรูมโรงแรม บนดาดฟ้า รับรองว่าเข้ากันได้หมด
4. ธีมสีงานแต่งสีเหลืองสดใส (Bright Yellow)
สีเหลืองเป็นสีที่สื่อความหมายถึงการปลอบโยนหัวใจและความคาดหวังถึงอนาคตสดใสที่กำลังจะมาถึง เมื่อเราหยิบนำสีเหลืองมาเป็นเฉดสีหลักในการจัดธีมงานแต่ง จะช่วยให้ดูโดดเด่นและซ่อนความสดใสแบบที่ดูแล้วรู้สึกสบายใจ อาจจะเลือกตัดกับสีขาวสักหน่อยเพื่อไม่ให้ดูจัดจ้านจนเกินไป หรือถ้าคุณจะใช้ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้หลักในงาน ก็ลอง
เลือกใช้คู่กับสีน้ำเงินหรือสีเทา จะได้ความสดใสแบบไม่เหมือนใคร เพียงเท่านี้ภาพงานแต่งที่ออกมาก็ดูดีจนต้องร้องโอ้โหกันไปตามๆ กันแล้วล่ะ
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
สีเหลืองอาจจะเป็นสีที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก แต่เป็นสีที่ความหมายดีมาก สีเหลืองเหมาะที่สุดกับงานแต่งธีมที่เน้นความสดใสน่ารัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณบ่าวสาวอยากใช้ดอกทานตะวัน ก็จะเหมาะที่สุดกับงานที่จัดตอนเช้า-กลางวันแบบ outdoor ที่จะยิ่งช่วยขับเน้นสีเหลืองให้ดูแล้วยิ่งสบายตาสบายใจ สีนี้เหมาะมากกับงานแต่งเล็กๆ ที่เน้นความเป็นกันเองของแขกในงาน
5. ธีมสีงานแต่งสีฟ้าอมเทาแบบหรูหรา (Elegant Dusty Blue)
ธีมงานสีนี้จะเน้นไปที่การใช้สีฟ้าหม่นอมเทา ซึ่งในในปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าก็มีงานแต่งหลายงานเหมือนกันที่เริ่มมีการนำโทนสีแบบนี้ไปเป็นธีมสีหลักในการจัดงาน และในปีนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อถ่ายภาพออกมาแล้วนั้น จะให้บรรยากาศที่ดูสวยงามและดูหรูหรามากขึ้นได้เป็นเท่าตัวเลย
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
สีฟ้าอมเทาแบบนี้จะให้ความรู้สึกสบายตาและหรูหราอยู่ในที เอาเป็นว่าเอาไปประยุกต์ให้เข้ากับงานธีมไหนก็ง่ายหมด หากจัดงานในโรงแรมแล้วอยากได้ความหรูหรา ก็สามารถนำไปจับคู่สีกับสีทองหรือสีเงินได้ แต่ถ้าจัด outdoor ในสวน ก็สามารถนำสีขาว-เขียวมาตัดแซมให้ทุกอย่างดูสดใสมากขึ้นได้
6. ธีมสีงานแต่งสีส้มอิฐแบบมีสไตล์ (Fabulous Retro Burnt Orange)
กระชากความโดดเด่นให้ดูดีมีสไตล์ในแบบที่ไม่เหมือนใครด้วยธีมงานโทนสีส้มอิฐ หรือสี burnt orange ซึ่งธีมสีแบบนี้อาจจะยังไม่ค่อยได้เห็นกันในเมืองไทยมากนัก แต่ในต่างประเทศต้องบอกเลยว่า เค้านำร่องด้วยการใช้โทนสีแบบนี้กันไปเยอะแล้วล่ะ หากบ่าวสาวคู่ไหนอยากโดดเด่นก่อนใคร ก็ลองรับโทนสีนี้ไปพิจารณากันดูเนอะ เก๋ไก๋ก่อนเพื่อนกันแน่นอน
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
สีส้มอิฐโทนที่เหมาะกับคู่รักสายอินดี้ที่อยากจัดงานในสวนสวยๆ สักแห่งมากๆ ธีมสีนี้จะจัดแบบ outdoor แบบสวนดอกไม้ใบหญ้าสวยๆ ในรีสอร์ท ในฟาร์ม หรือแม้แต่จัดในสตูดิโอ ในโรงแรม สีส้มอิฐ หรือ Burnt Orange นี้เหมาะกับธีมงานแนวเรโทร อินดี้ หรือคันทรี่นิดๆ มาก ใครที่อยากจัดงานแต่งธีมเหล่านี้ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังที่ใช้สีนี้ เพราะมันเข้ากั๊นเข้ากันได้อย่างลงตัวเป็นที่สุด
7. ธีมสีงานแต่งสีเขียวหม่นอมเทาแบบหรูหรา (Luxury Sage Green)
ยังคงอยู่กันที่ธีมแต่งงานสีเขียว แต่คราวนี้จะเป็นธีมสีเขียวที่กำลังฮอตและฮิต อย่างสีเขียวหม่น หรือ Sage Green ที่ดูละมุนตาเป็นที่สุด ประหนึ่งจัดงานแต่งท่ามกลางธรรมชาติ ภายในงานจะนำสีของก้อนหินมาตัดกับสีเขียวหม่นให้ดูอินเข้ากับธรรมชาติได้มากขึ้นไปอีก หรือจะนำสีขาว สีเขียวมรกต สีเขียวมิ้นท์มาจับคู่ก็จะได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป นับว่าเป็นธีมสีงานแต่งที่ห้ามพลาด สำหรับคู่รักที่ชอบสีเขียวอยู่แล้ว แต่อาจจะเบื่อสีเขียวเฉดธรรมดา ถ้าอยากได้รูปสวยๆ ไว้เป็นที่ครอบครอง ลองเก็บสีเขียวแบบ Sage Green แบบใบต้นเสจไว้พิจารณากันดู
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
สีเขียวหม่นนี้เหมาะกับงานแต่งหลากหลายรูปแบบมากๆ เพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สง่า หรูหรา ในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากเลย จะจัดงานใหญ่หรืองานเล็กก็ได้ จะจัดในโรงแรม ในสวน ที่บ้าน หรือแม้แต่จัดงานแบบบ้านทรงไทยก็ยังเข้ากันได้
8. ธีมสีงานแต่งสีพาสเทลแบบน่ารัก (Cute Pastel Shades)
นับเป็นสีในฝันของเจ้าสาวแทบจะทุกคน เพราะผู้หญิงก็ฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิงที่ได้เดินคู่เจ้าชายที่เค้ารักสักครั้งในชีวิต ซึ่งธีมงานแต่งสีพาสเทลไม่ได้จำเป็นว่าต้องเป็นสีชมพูเท่านั้นนะ สีฟ้า สีม่วง สีเขียว สีเหลือง ก็ถือเป็นพาสเทลได้เหมือนกัน ซึ่งภาพที่ออกมาก็จะดูสดใสและมีสีสันได้แบบไม่ซ้ำใครแน่นอนล่ะ
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
เห็นสีพาสเทลอย่าคิดว่าต้องกับธีมงานที่เน้นหวานๆ โรแมนติกเท่านั้น ที่จริงพาสเทลเป็นสีที่จะหวานแหววก็ได้ จะสนุกสนานก็ได้ แล้วก็เป็นสีที่ไม่ฉูดฉาดบาดตาเหมาะกับการจัดงานเช้า-กลางวัน แต่จัดงานกลางคืนในสวนสวยหรือในกระโจมประดับไฟก็ได้ความรู้สึกสไตล์ Carnival ดีเหมือนกันนะ หรือจะจัดธีมงานวัด แต่ไม่เอาสีนีออนแปร๊ดๆ นะ มันไม่อ่อนโยน เปลี่ยนมาเป็นพาสเทลหลากสีสันแทน กลายเป็นธีมงานวัดฉบับอ่อนโยน
9. ธีมสีงานแต่งสีเบอร์กันดี้เรดสุดร้อนแรง (Sexy Sophisticated Burgundy Red)
สี ‘เบอร์กันดี เรด’ เป็นหนึ่งในสีสุดอินเทรนด์ที่เพิ่งกลับมาได้รับความนิยมในปีที่แล้ว และก็ยังได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสีที่มีเสน่ห์สุดๆ เป็นสีที่มีความเซ็กซี่เล็กๆ ดูน่าค้นหา มีความมั่นคง และความเรียบหรูไปพร้อมๆ กัน เฉดสีจะค่อนข้างเข้มทำให้ดูสุภาพ แต่ก็ไม่เคร่งขรึมหรือจืดชืด เรียกได้ว่าสวยครบเครื่องในสีเดียว สำหรับคู่แต่งงานที่ไม่อยากเลือกสีสันสดใสแบบเหลือง ส้ม เขียว หรือชมพู เพราะรู้สึกว่าจำเจ อยากได้สีที่ให้ความรู้สึกเคร่งขรึมหรูหรา ลองรับโทนสีนี้ไปพิจารณากันดู รับรองคุณต้องหลงรักในเสน่ห์ของเบอร์กันดี เรดแน่ๆ
สีนี้เหมาะกับธีมงานแต่งงานแบบไหน:
สีนี้รับรองเหมาะกับงานแต่งงานทั้ง indoor และ outdoor เป็นเฉดสีที่เจิดจรัสหมดทุกที่ทุกเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน แม้จะคิดว่าสีนี้ทำอะไรก็ขึ้นหมด แต่ถ้าถามว่าสีนี้เหมาะที่สุดกับงานแต่งธีมไหน ก็ต้องขอบอกว่างานแต่งที่อยากเน้นธีมหรูหราหน่อยจะเหมาะมาก เพราะสีนี้เค้ามีความสง่างามอยู่ในตัว เช่น จัดธีม Masquerade Ball หรือที่เรารู้จักกันในชื่องานเลี้ยงหน้ากาก ก็เข้าทีทีเดียว