ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารสายยาง อาหารทางการแพทย์สำหรับโรคตับ  (อ่าน 26 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 512
  • รับจ้างโพสต์เว็บ สำหรับเจ้าของเวปไซต์ เจ้าของกิจการ
    • ดูรายละเอียด
อาหารสายยาง อาหารทางการแพทย์สำหรับโรคตับ
« เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2024, 18:47:18 น. »
อาหารสายยาง อาหารทางการแพทย์สำหรับโรคตับ

การรับประทานอาหาร ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน เพราะอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้น ส่งผลต่อร่างกาย หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แต่หากเราไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของการรับประทานอาหารและไม่เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาจจะส่งผลให้ร่างกายเราเกิดภาวะการเจ็บป่วยได้ เพราะว่าการรับประทานอาหารนั้นสามารถเป็นต้นเหตุทำให้เราเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้

เพราะฉะนั้น เราต้องใส่ใจในเรื่องของการรับประทานอาหารให้มากเป็นพิเศษ รวมไปถึงผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ก็ต้องมีความคำนึงถึงสารอาหารที่รับประทานเข้าไปว่ามีผลดี ผลเสีย ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เพราะโรคบางโรคต้องมีการจำกัดในเรื่องของปริมาณสารอาหาร ซึ่งต้องมีความเหมาะสมและเพียงพอต่อร่างกาย ในผู้ป่วยบางรายนี้อาจใช้อาหารทางการแพทย์เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด แต่สำหรับอาหารทางการแพทย์นั้น ถึงแม้ว่าจะสามารถใช้ทดแทนอาหารมื้อหลักได้แต่ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ในเรื่องของการรักษาโรค

ซึ่งอาหารทางการแพทย์ก็มีหลากหลายสูตร ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปเฉพาะโรคสำหรับวันนี้เราจะมาพูดเรื่องอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคตับ เพื่อให้เลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสมและสามารถใช้อาหารทางการแพทย์หรืออย่างถูกต้อง ถูกวิธี เพื่อทำให้เกิดโทษต่อร่างกายและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆได้อีกด้วย

ก่อนอื่นจะต้องพูดถึงโรคตับก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งโรคตับนั้นมีหลายชนิด การมีโภชนาการการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคตับเสมอไป ยกเว้นโรคตับที่มีสาเหตุมาจากการดื่มสุรามาก โรคตับที่เกิดในคนที่ขาดสารอาหาร ถ้าเป็นโรคตับเรื้อรังจะส่งผลให้ร่างกายมีภาวะโภชนาการที่แย่ลงไปด้วย แต่ในด้านตรงข้ามโภชนาการที่ดีก็จะสามารถช่วยให้ตับสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงเพิ่มขึ้นได้ ในกรณีที่เป็นโรคตับจะทำให้ตับมีการทำงานที่ผิดปกติส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารและดูดซึมอาหาร รวมไปถึงการเก็บสะสมสารอาหารและการเผาผลาญอาหาร โรคตับที่พบมากคือตับแข็ง ซึ่งเป็นผลมาจากโรคตับเรื้อรังและโรคตับเรื้อรังหลายหลายชนิด ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการขาดสารอาหารได้

สาเหตุส่วนใหญ่ของพฤติกรรมต่างๆที่ทำลายตับ คือ นอนดึกเกินไป ไม่ปัสสาวะตอนเช้า รับประทานมากเกินไป ไม่รับประทานอาหารเช้า รับประทานอาหารที่มีสารกันบูด สารถนอมอาหารวัตถุที่เจือปนในอาหาร น้ำตาลเทียม หรือบริโภคอาหารดิบบ่อย ยกเว้นผักทำให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้น ไปถึงการใช้น้ำมันชนิดไม่ดีซึ่งมีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง นอกจากนี้ยังมีสารพิษจากยาฆ่าแมลง ส่วนประกอบเครื่องสำอางต่างๆ อาจจะมีส่วนผสมที่สามารถทำลายเซลล์ได้ สำหรับวิธีการดูแลสุขภาพของเราก็ควรจะเลี่ยงอาหารที่ผลิตสารพิษในลำไส้ได้โดยจะทำลายการทำงานของระบบขจัดพิษ เชื้อแบคทีเรีย และไวรัสได้ เช่น การดื่มชากาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป รวมถึงบุหรี่ ล้วนมีผลต่อตับ กระเพาะอาหาร และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เพราะฉะนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคตับ ควรรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูนอิสระสูง ซึ่งสารต้านอนุมูนอิสระจะช่วยขจัดพิษภายในร่างกาย สารต้านอนุมูนอิสระมีมากใน บล็อกโครี กะหล่ำปลีและผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองซึ่งเป็นอาหารที่มีสารช่วยลดพิษของสารพิษนั่นเอง

สำหรับอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคตับ จะต้องมีการจำกัดในเรื่องของปริมาณไขมัน 25% ของพลังงานทั้งหมด เนื่องจากผู้ป่วยโรคตับมักมีความผิดปกติในการย่อยไขมันในอาหารและมีปริมาณโปรตีนสูง 25% ของพลังงานทั้งหมด โดยที่โปรตีนส่วนหนึ่งเป็นกรดอะมิโนโซ่กิ่งที่สามารถใช้ดูดซึมไปใช้ในกล้ามเนื้อได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ตับ เหมือนกรดอะมิโนชนิดอื่นๆ จึงทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะความผิดปกติทางสมองที่เกิดจากของเสียคั่งจึงนิยมใช้ในผู้ป่วยโรคตับที่มีความเสี่ยงของการเกิดภาวะของเสียคั่งที่บริโภคอาหารตามปกติได้น้อย แต่รสชาติที่ค่อนข้างไม่เป็นที่ยอมรับของป่วย จึงต้องมีการเติมรสต่างๆเพื่อทำให้รสชาติดีขึ้น

อย่างไรก็ตามการยอมรับของรสชาติยังคงมีน้อยกว่าอาหารทางการแพทย์สูตรอย่างอื่น ดังนั้นในทางปฏิบัติหากผู้ป่วยไม่สามารถดื่มได้และไม่ได้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ อาจจะพิจารณาเรื่องอาหารทางการแพทย์สูตรอื่นได้ที่ไม่มีปริมาณไขมันสูงแต่มีปริมาณโปรตีนสูง และสามารถให้ป่วยดื่มเพื่อเพิ่มพลังงานและสารอาหารก่อนได้ อย่างไรก็ตาม เราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย รวมถึงสารอาหารที่มีประโยชน์เพราะจะช่วยฟื้นฟูอาการป่วยและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกาย ทั้งนี้อยากทำให้ผู้ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บและสามารถใช้ชีวิตประจำวันเต็มที่มากขึ้น นอกจากนี้ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงมีสุขภาพที่ดีขึ้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 กันยายน 2024, 18:49:51 น. โดย siritidaphon »