ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยววัด 10 วัดสีสวยแปลกตาทั่วไทยที่ต้องเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญให้ได้สักครั้ง  (อ่าน 106 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 510
  • รับจ้างโพสต์เว็บ สำหรับเจ้าของเวปไซต์ เจ้าของกิจการ
    • ดูรายละเอียด
เที่ยววัด 10 วัดสีสวยแปลกตาทั่วไทยที่ต้องเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญให้ได้สักครั้ง

ใครเป็นสายบุญฟังทางนี้ค่ะ วันนี้ขอชี้เป้า 10 วัดสีสวยทั่วเมืองไทยมาให้เพื่อนๆ ชาวชิลไปไหนได้เดินทางไปสักการะไหว้พระทำบุญกันค่ะ จะมีวัดไหนบ้างตามมาชมกันเลย10 วัดสีสวยแปลกตาทั่วไทยที่ต้องเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญให้ได้สักครั้ง


วัดเพลง – วัดสวยนนทบุรี

เริ่มด้วยวัดแรกกับวัดเพลงนนทบุรีค่ะ โดยวัดนี้มีโบสถ์สีชมทั้งหลัดโดดเด่นสะดุดตามากๆ ซึ่งเดิมทีวัดนี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในใสมัยกรุงศรีอยุธยาถูกทิ้งร้างมาประมาณ 200 กว่าปี ต่อาได้มีการบูรณะใหม่ขึ้นมา ส่วนที่มาของการทาโบสถ์ทั้งหลังเป็นสีชมพูนั้น เป็นวัดที่มีความสำคัญเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเลยได้มีการทาสีพระอุโบสถเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ นี่จึงเป็นที่มาของวัดเพลง โบสถ์สีชมพูที่โดดเด่นในจังหวัดนนทบุรี

ที่ตั้ง : วัดเพลง ตำบลไทรม้า อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
การเดินทาง
รถส่วนตัว : ใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ขับข้ามสะพานพระนั่งเกล้าเก่า (ฝั่งไปบางใหญ่) ลงสะพานปุ๊บชิดซ้ายยูเทิร์นทันที แล้วเลี้ยวขวาเข้ามาในซอยบ้านไทรม้า ขับตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไทรม้าซอย 11 หรือถ้ามาจากฝั่งบางใหญ่ก็ใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ จนถึงแยกท่าอิฐเลี้ยวขวาตรงไฟแดง ขับเข้ามาในซอยบ้านไทรม้า ซอยเข้าวัดจะอยู่ทางขวามือ
รถสาธารณะ : นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงลงสถานีไทรม้า แล้วออกทางหมู่บ้านซื่อตรงแถวนั้นจะมีวินมอเตอร์ไซค์นั่งมาที่วัดเพลงได้ หรือนั่งรถเมล์สาย 134,18 มาลงตรงแยกท่าอิฐค่ะ แล้วโบกพี่วินตรงทางเข้าซอยบ้านไทรม้ามายังวัดได้เช่นเดียวกัน


วัดบรมราชากาญจนาภิเษก (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) – วัดสวยนนทบุรี

ยังอยู่ในจังหวัดนนทบุรีกันต่อ เราจะพาไปชมสถาปัตยกรรมจีนในจังหวัดนนทบุรีกันค่ะ กับ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกหรือวัดเล่งเน่ยยี่ 2 ภายในวัดตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์จีน ทำให้เหมือนเราหลุดมาในประเทศจีนเลยล่ะค่ะ แต่ละมุมของที่นี่บอกเลยว่าประณีตมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักมังกรบริเวณบันไดทางขึ้นที่วิจิตรบรรจง แสดงให้เห็นศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าของคนไทยเชื้อสายจีน

ที่ตั้ง : วัดบรมราชากาญจนาภิเษก (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) หมุ่ 4 ถนนเทศบาล 9 ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง นนทบุรี
การเดินทาง

รถส่วนตัว : ใช้ถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งตรงมายังทางตลาดบางบัวทอง เลี้ยวขวาตรงแยกบางพลู วิ่งตรงมาตามถนนบางบัวทอง-ไทรน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนเทศบาล 9 ก็จะเจอวัดบรมราชากาญจนาภิเษกหรือวัดเล่งเน่ยยี่ 2 อยู่ทางซ้ายมือค่ะ ในวัดมีที่จอดรถสะดวกสบาย
รถสาธารณะ : นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงไปลงสถานีแยกบางพลูทางออกออก 1 แล้วเดินย้อนไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ เลี้ยวซ้ายตรงไฟแดงรถรถเมล์ที่เข้าตลาดบางบัวทองค่ะ จะผ่านตรงซอยถนนเทศบาล 9 แล้วเดินต่อเข้าไปนิดนึง


วัดปากน้ำโจ้โล้ – ฉะเชิงเทรา

จากนนทบุรีเดินทางต่อไปยังเมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรากันค่ะ เราจะพาเพื่อนๆ มาชมความสวยงามของโบสถ์สีทองทั้งหลังที่วัดปากน้ำโจ้โล้ ซึ่งไม่ว่าจะภายนอกหรือภายในพระอุโบสถก็ล้วนทาด้วยสีทอง แม้กระทั้งพัดลมด้านในโบสถ์ยังเป็นสีทองเลยล่ะค่ะ ซึ่งวัดปากน้ำโจ้โล้นั้นเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลาย ส่วนคำว่าโจ้โล้มาจากในอดีตที่ตรงนี้เคยเป็นที่ตั้งของทัพพม่า พระเจ้าตากสินมหาราชท่านได้ใช้อุบายโล้เรือมาตามแม่น้ำบางประกงเพียงลำพังเพื่อให้ทหารพม่าตายใจ และให้ทหารซุ่มโจมตีจนได้ชัยชนะ และพระองค์ได้สร้างเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะครั้งนี้ และได้เรียกวัดแห่งนี้ว่าเจ้าโล้ แต่ต่อมาเพี้ยนเป็นโจ้โล้ บวกกับสถานที่ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำบางปะกงจึงเรียกวัดแห่งนี้ว่าวัดปากน้ำโจ้โล้นั่นเองค่ะ

ที่ตั้ง : ตำบล บางคล้า อำเภอ บางคล้า ฉะเชิงเทรา 24110
เปิดเวลา : 7.00-17.00


วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร – พระนครศรีอยุธยา

จากฉะเชิงเทราเดินทางต่อไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่นี่มีวัดไทยแต่หน้าตาเป็นโบสถ์คริสต์ นั้นก็คือวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังบางปะอิน ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน พระอุโบสถสร้างเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์กอทิกเลียนแบบโบสถ์ในศาสนาคริสต์ ภายในประดิษฐาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” เป็นพระประธาน ฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าของพระประธานนั้น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ที่ประดับด้วยกระจกสี นอกจากบริเวณพระอุโบสถแล้วรอบๆ อาณาบริเวณของวัดยังมีมุมสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอีกมากมายเลยค่ะ แต่ใครที่เข้ามาเยี่ยมชมโปรดอยู่ในอาการสำรวมและแต่งกายสุภาพด้วยนะคะ

ที่ตั้ง : บางปะอิน ตำบล บ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เปิดเวลา : 9.00-17.00 น.


วัดปากน้ำแขมหนู – จันทบุรี

เดินทางไปตามหาวัดสวยกันต่อค่ะ คราวนี้เราจะพาเพื่อนไปไปยังจังหวัดจันทบุรี ที่นี่มีวัดสวยที่ประดับตกแต่งด้วยเซรามิกสีน้ำเงินทั้งหลัง นั่นก็คือวัดปากน้ำแขมหนู ตั้งอยู่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู ในอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่กำลังมาแรงมากๆ ค่ะ สาเหตุที่โบสถ์หลังนี้ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีฟ้าก็เป็นเพราะว่า โบสถ์หลังเดิมนั้นทรุดโทรมลงเพราะเนื่องจากตั้งอยู่ริมทะเล จึงมีการรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์หลังใหม่ โดยหาวิธีชะลอไม่ให้โบสถ์หลังใหม่นี้เสื่อมโทรมเร็ว ทางวัดจึงปิ๊งไอเดียใช้เครื่องเซรามิกเคลือบชั้นปูนพระอุโบสถเพื่อป้องกันการกัดกร่อนของน้ำทะเล ส่วนที่มาของการใช้สีน้ำเงิน-ขาวก็ในสมัยก่อนการทำเครื่องลายครามใช้ สีเท่านั้นค่ะ ก็เลยใช้เซรามิกสองสีนี้มาประดับประดาตัวโบสถ์ เลยออกมาเป็นโบสถ์สีน้ำเงินขาวที่สวยงามประทับใจมากๆ

ที่ตั้ง : วัดปากน้ำแขมหนู ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
โทร : 039-455058


วัดร่องขุ่น – เชียงราย

ขึ้นเหนือไปจังหวัดเชียงราย ซึ่งเรียกว่าที่นี่เป็นดินแดนแห่งศิลปะ เพราะเป็นที่สร้างศิลปินมากมาย อย่างเช่น อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ชาวจังหวัดเชียงรายที่ได้รังสรรค์วัดร่องขุ่น พุทธศิลป์ที่งดงามราวกับสรวงสวรรค์ให้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จากการประดับตกแต่งด้วยลวดลายของวัดไม่ว่าจะเป็นศิลปะการวาด การปั้น หรือการใส่ลูกเล่นอย่างกระจกเล็กๆ มากมายผสานวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างลงตัว และล่าสุดทางวัดร่องขุ่นได้สร้าง หอพระพิฆเนศอลังการกับสถาปัตยกรรมสีทองกลางบึงน้ำ พร้อมมีสะพานแขวนสีทองที่นำเข้าสู่ใจกลางของหอ ด้านในมีการจัดแสดงพระพิฆเนศให้ชมมากมาย ใครที่มาเชียงรายก็ห้ามพลาดมาสัมผัสความสวยงามของวัดร่องขุ่นกันค่ะ

ที่ตั้ง : ต.ป่าอ้อดอนไชย อ.เมือง จ.เชียงราย
วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.
ห้องแสดงภาพ เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 17.30 น.
วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทยเข้าชมฟรี, ชาวต่างชาติ คนละ 50 บาท


วัดร่องเสือเต้น – เชียงราย

จากวัดร่องขุ่น เราจะพาไปชมความสวยงามของวัดสีน้ำเงินเข้มที่สวยตระการตา นั่นก็คือวัดร่องเสือเต้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ วิหารสีน้ำเงิน ผลงานแห่งศรัทธาของสล่านก หรือนายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินชาวเชียงรายซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โดยวัดแห่งนี้จะใช้เฉดสีเป็นสีน้ำเงินฟ้า เต็มไปด้วยศิลปะประยุกต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ภายในอุโบสถมีมีผลงานจิตรกรรมภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ และตรงกลางมี “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวมุกขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร ส่วนคำว่าร่องเสือเต้นมาจากอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง และในสมัยก่อนไม่มีบ้านคนชาวบ้านในอดีตมักจะเห็นเสือกระโดดข้ามร่องน้ำไปมาจึงเป็นที่มาของคำว่าร่องเสือเต้น และกลายมาเป็นชื่อเรียกหมู่บ้านร่องเสือเต้น หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนี้อีกด้วย

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 2 ถ.แม่กก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 20.00 น.
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย


วัดศรีพันต้น – น่าน

ยังอยู่ที่ภาคเหนือกันต่อคราวนี้จากเชียงรารย เราจะพาเพื่อนๆ ไปค้นหาวัดสวยที่เมืองสุดน่ารัก จังหวัดน่านกันค่ะ ซึ่งในตัวเมืองน่านนั้นล่วนเต็มไปด้วยวัดวาอารามที่สวยและเก่าแก่มากมาย ซึ่งวัดเราจะพามาชมความสวยงามนั้นคือ วัดศรีพันต้น วัดที่มีวิหารสีทองอร่ามตา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่าน ระหว่าง พ.ศ. 1960 – 1969 ) ชื่อวัดตรงกับนามผู้สร้าง คือพญาพันต้น ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้คือโบสถ์สีทองและศิลปะปูนปั้นพญานาคเจ็ดเศียรที่เฝ้าบันไดวิหาร โดยเป็นผลงานของ สล่ารง หรือ นายอนุรักษ์ สมศักดิ์ ศิลปินชาวน่านที่ได้รังสรรค์ออกมาได้สวยงามสวยงามราวกับมีชีวิต ละภายในวิหารยังมีผลงานจิตรกรรมที่เล่าเรื่องราวพุทธประวัติและการกำเนิดเมืองน่าน โดยเป็นผลงานของศิลปินชาวน่านที่สวยงามทรงคุณค่ามากๆ


วัดป่าภูก้อน – อุดรธานี

จากเมืองเหนือเราขอพาข้ามภาคไปยังภาคอีสานค่ะ กับวัดสวยบนเขาในจังหวัดอุดรธานี “วัดป่าภูก้อน”อีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อไปอุดรธานี ตัววัดตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีไปประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ พระวิหารหลังคาสีฟ้าที่ตั้งอยู่บนเขา ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระนอนที่ทำจากหินอ่อนสีขาวยาว 20 เมตร ออกแบบและแกะสลักองค์พระพุทธไสยาสน์โดยอาจารย์นริศ รัตนวิมล ในส่วนฐานพระพุทธรูปซึ่งเป็นภาพปั้นนูนต่ำหล่อทองแดงเรื่องราวของพระมหาปรินิพพานสูตร ออกแบบโดยอาจารย์สมยศ คำแสง ทำให้ที่นี่นอกจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับปฏิบัติวิปัสนาของพระภิกษุสงฆ์แล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพุทธศิลป์ที่สวยงามและทรงคุณค่าเหมาะกับการมาเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง

ที่ตั้ง : วัดป่าภูก้อน บ้านนาคำใหญ่ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
พระวิหารเปิดเวลา 08.00-17.00 น.


วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว – อุบลราชธานี

ปิดท้ายกับวัดสวยในจังหวัดอุบลราชธานี วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่นิยมเรียกกันว่า วัดภูพร้าวหรือ วัดเรืองแสง ที่มาของคำว่าวัดเรืองแสงมาจากด้านหลงโบสถ์แห่งนี้มีจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์ที่จะเรืองแสงในยามค่ำคื่นค่ะ ซึ่งเป็นผลงานของ คณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร โดยใช้สารเรืองแสง หรือ สารฟลูออเรสเซนต์รอบต้น สำหรับสายถ่ายภาพแนะนำว่าควรมาในช่วงเดือนมืดเพราะจะทำให้เห็นภาพต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงสวยงามท่ามกลางหมู่ดาวที่ส่องประกายบนท้องฟ้า ส่วนตัวโบสถ์นั้นได้ต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว ทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินสูงสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขง วิวฝั่งประเทศลาวได้อย่างสวยงาม และที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานีอีกด้วย

ที่ตั้ง : ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี