ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันบางนา: ก่อน และ หลังผ่าตัดรากฟันเทียม ควรเตรียมตัวอย่างไร  (อ่าน 153 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 512
  • รับจ้างโพสต์เว็บ สำหรับเจ้าของเวปไซต์ เจ้าของกิจการ
    • ดูรายละเอียด
จัดฟันบางนา: ก่อน และ หลังผ่าตัดรากฟันเทียม ควรเตรียมตัวอย่างไร

การผ่าตัดรากฟันเทียม หรือเรียกง่ายๆให้เข้าใจก็คือ การใส่ฟันปลอมแบบติดแน่น ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมช่วยให้ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติ ได้มีฟันที่แข็งแรงและเหมือนธรรมชาติมากที่สุดกลับมาอีกครั้ง ซึ่งในยุคสมัยนี้หลายๆท่านนิยมทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมากกว่าการใส่ฟันปลอมแบบปกติทั่วไป ด้วยเหตุผลที่ว่า แข็งแรง และเป็นธรรมชาติมากกว่านั่นเอง

ซึ่งในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับวิธีการเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการเตรียมพร้อมและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการฝังรากฟันเทียม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้



ก่อน – หลัง ผ่าตัดรากฟันเทียม ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

ต้องขอบอกเลยว่าการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมสำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว หรือไม่ใช้ยาเกี่ยวกับเลือด ก็ไม่จำเป็นต้องดูเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่สำหรับคนไข้ที่มีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือว่ามีประวัติแพ้ยาบางอย่าง ควรที่จะแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนในทุกครั้งที่จะรักษาเกี่ยวกับทันตกรรม เมื่อได้รับการตรวจประเมินผลอย่างละเอียดจากทันตแพทย์แล้ว และทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่าสามารถทำได้ ทันตแพทย์จะเริ่มการถ่ายภาพแบบรังสีสองมิติบริเวณที่จะทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม แต่หากว่าบริเวณที่จะทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้นมีอวัยวะที่สำคัญอยู่ในบริเวณไม่ไกล ทันตแพทย์จะทำการถ่ายภาพรังสีแบบสามมิติ (CBCT) เพิ่มอีก เพื่อความปลอดภัยของคนไข้

หลังจากที่ทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างนี้ทันตแพทย์จะยังไม่ทำการใส่ฟันเทียมให้ เนื่องจากต้องรอให้รากเทียมสมานตัวเสียก่อน ซึ่งในช่วงประมาณ 1 – 2 เดือนแรกของการผ่าตัดรากฟันเทียม ขอแนะนำว่าห้ามรับประทานหรือบดเคี้ยว อาหารที่มีลักษณะเป็นของแข็ง บริเวณที่ทำการผ่าตัดรากเทียม เพื่อป้องกันการเกิดแรงกระแทกรากเทียมที่ทำการฝังเข้าไป

คนไข้ที่ทำการฝังรากเทียมนั้นสามารถแปรงฟันทำความสะอาดช่องปากได้ตามปกติ แต่แนะนำว่าให้ควรระวังเป็นพิเศษในจุดที่ทำการฝังรากเทียมเท่านั้นเอง

รวมถึงหลังจากที่ทำการผ่าตัดรากเทียม จะส่งผลให้มีอาการปวดบวมเป็นธรรมดา ซึ่งจะหายเองตามธรรมชาติ อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 5 – 7 วัน โดยต้องรับประทานยาตามที่ทันตแพทย์จ่ายให้ครบทุกครั้ง และจนกว่าจะหมด

แต่หากในกรณีที่ มีหนอง มีไข้ขึ้นสูง หรือมีอาการชาบริเวณคาง ปาก หรือ ลิ้น  ภายหลังจากการผ่าตัวรากฟันประมาณ 2 วัน ให้รีบเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน เพราะ ถือได้ว่าเป็นอาการที่ผิดปกติ จำเป็นต้องให้ทันตแพทย์ตรวจดูอีกครั้งถึงปัญหา

และที่สำคัญเลยที่ทุกท่านต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นั่นก็คือ เข้าพบทันตแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง ไม่ควรละเลยเนื่องจากว่าในทุกครั้งที่ทันตแพทย์นัดหมาย จะทำการวินิจฉัยว่าเมื่อไหร่ถึงจะเริ่มขึ้นตอนต่อๆไปได้ หากว่าละเลยการนัดอาจจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำรากฟันเทียมและใส่ฟันลดลง จนอาจจะกลายเป็นเกิดปัญหาแทนการรักษาก็เป็นได้


รากเทียมทำงานอย่างไร ?

รากเทียมที่ถูกผ่าตัดฝังจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกร โดยเมื่อทั้งคู่สมานกันแล้วจะมีความแข็งแรงพอที่จะใช้รองรับฟันปลอม ที่ถูกผลิตมาเฉพาะเพื่อให้ทำงานร่วมกับรากเทียมและช่องปากของแต่ละคน ซึ่งจะทำให้ไม่ลื่นหรือเลื่อนออกจากจุดที่ต้องการที่ทันตแพทย์ได้วางไว้ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด โดยเฉพาะตอนที่พูดคุยสนทนา รับประทานบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งการทำรากฟันเทียมเพื่อยึดติดฟันปลอม ถือได้ว่าเป็นการแทนฟันแท้ตามธรรมชาติที่สูญเสียไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งในสมัยนี้ถือได้ว่าเป็นที่นิยมมากๆ เนื่องด้วยความเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่ฟันปลอมแบบธรรมดาทั่วไป และในปัจจุบันก็ถือได้ว่าราคาการทำรากฟันเทียมนั้น ไม่ได้มีราคาที่สูงเหมือนเมื่อสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว


แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกท่านได้ทำการตรวจสอบหาข้อมูล ก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพื่อให้เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด และควรเลือกสถานที่ ที่เชื่อถือได้